วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

พรรณไม้


พรรณไม้สำหรับการเลี้ยงปลาสวยงาม



                แข้งไก่ ( A. lilacina ) เป็นพืชในวงศ์ Amaranthaceae เป็นพืชล้มลุกใบเลี้ยงคู่ มีดอก ลำต้นแทงขึ้นมาจากเหง้าใต้ดิน แล้วแตกกิ่งเลื้อยไปตามพื้นหรือลอยน้ำ ใบยาวรูปหอก หลังใบสีเขียว ใต้ใบมีสีต่างๆ ตั้งแต่น้ำตาลแดง ม่วง ถึงชมพู เนื่องมาจากเป็นพืชที่ต้องการแสงจัด จึงไม่ควรปลูกเป็นกลุ่มหนาแน่น

                   หญ้าน้ำ ( S. subulata ) เป็นพืชมีดอก ใบเลี้ยงเดี่ยว อยู่ในวงศ์ Alismataceae ลักษณะคล้ายต้นหญ้า ลำต้นมีเหง้า มีไหลแตกออกมา ใบเรียวเล็กกว้างแค่ 5 มิลลิเมตรเท่านั้น ถ้าปลูกรวมกลุ่มเป็นกอ กอละ 5 ต้น บริเวณฉากหน้าของตู้ จะแตกไหลเกิดเป็นต้นใหม่จนเต็มพื้นที่ และอยู่ได้เป็นปี แต่ถ้าขึ้นหนาแน่นเกินไป และได้รับแสงน้อยมันจะยืดตัวขึ้นอาจสูงถึง 50 เซนติเมตร ทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นพรรณไม้น้ำจำพวกเทป ( Vallisneria ) เมื่อย้ายไปปลูกที่ฉากหลังของตู้ มักจะเปลี่ยนสภาพกลับมาเป็นต้นเตี้ยอีก

                สาหร่ายแปรงล้างขวด ( R.wallickii ) เป็นไม้ในสกุล Rotala ซึ่งเป็นพืชมีดอก ใบเลี้ยงคู่ ไม่ใช่สาหร่าย  แต่เนื่องจากใบใต้น้ำเรียวยาวเป็นฝอยคล้ายสาหร่าย จึงชอบเรียกกันว่า สาหร่ายแปรงล้างขวด ถ้าสภาพแสงดียอดจะมีสีแดงสวยมาก เหมาะสำหรับตกแต่งบริเวณหน้าฉากตู้



 ริคเซีย ( R. fluitans ) เป็นพืชลอยน้ำที่จัดอยู่ในวงศ์ Riciaceae ตัวของริคเซียซึ่งโครงสร้างของลำต้น ใบ และรากที่รวม เรียกว่า ธัลลัส ( Tallus ) จะแตกตัวและเกาะกันเป็นกลุ่มก้อนลอยอยู่ใต้ผิวน้ำ แต่ถ้าอยู่ติดกับพื้นจะสร้างโครงสร้างของรากที่เรียกไรโซมสำหรับยึดธัลลัส ติดกับพื้นปลูก สามารถนำไปผูกติดกับขอนไม้ หรือก้อนหินด้วยเอ็นไนล่อนใส มองดูคล้ายคลุมด้วยพรมสีเขียว ในสภาพที่เหมาะสมจะเห็นฟองก๊าซออกซิเจนอันเกิดจากขบวนการสังเคราะห์แสงเกาะตามยอดธัลลัสของริคเซียพราวไปหมด




บัวเผื่อน ( N.stellala ) เป็นพืชท้องน้ำหลายฤดูในวงศ์  Nymphaeaceae ลำต้นเป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน ใบรูปลูกศรสีน้ำตาลอมเขียว ใบมักจะแทงขึ้นผิวน้ำจึงต้องคอยเล็มใบที่มีขนาดใหญ่ทิ้ง ชื่อ Red Water Lilies ได้มาจากสีของดอก คือ เป็นชนิดที่มีดอกสีแดง ส่วน Blue Water Lilies ก็เป็นพรรณที่มีดอกสีน้ำเงิน


   บัวแดง ( N. lotus ) เป็นพืชท้องน้ำหลายฤดูในวงศ์ Nymphaeaceae ลำต้นเป็นเหง้าใต้ดิน ใบลอยผิวน้ำเป็นรูปเกือบกลม ฐานใบหยักรูปหัวใจ ด้านบนสีเขียวเข้ม ด้านล่างสีอ่อนกว่า เส้นใบแตกคล้ายพัด ใบใต้น้ำมีขนาดเล็กกว่าใบลอยผิวน้ำ พื้นใบบอบบางและมีชมพูแดง เป็นพรรณไม้น้ำที่ต้องการสารอาหารและแสงค่อนข้างมาก ถ้าแสงน้อยใบจะแทงขึ้นผิวน้ำ

             บัวสวรรค์, บัวญี่ปุ่น ( Nuphar Japonica ) เป็นพืชท้องน้ำหลายฤดูในวงศ์  Nymphaeaceae  ลำต้นเป็นเหง้าขนาดใหญ่ฝังอยู่ใต้พื้น ใบรูปหัวลูกศรสีเขียวอ่อน บริเวณขอบใบมีลักษณะใส ก้านในสีเข้มกว่า แตกเป็นเหง้าชูขึ้นสูงจากพื้น


โลบีเนีย  ( L. cardinails ) เป็นพรรณไม้น้ำในวงศ์ Lobeliaceae  ในธรรมชาติชอบชื้นที่ชื้นแฉะที่มีแดดส่องถึง โดยรากเจริญอยู่ใต้น้ำ ลำต้นและใบอยู่เหนือน้ำ แต่ก็สามารถอยู่ใต้น้ำได้ตลอดเวลา ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเล็ก รูปไข่ แตกจากลำต้นสลับเวียนไปรอบต้น ใบที่อยู่เหนือน้ำจะมีสีเขียวเข้ม ใต้ใบสีม่วง มองดูเหมือนช่อดอกไม้สีม่วง ดอกสีแดง แต่เมื่ออยู่ใต้น้ำสีของใบจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนเป็นพรรณไม้น้ำที่ต้องการแสงมาก ถ้าแสงน้อยจะแทงยอดขึ้นเหนือน้ำ



 แว่นแก้ว ( H. leucocephala ) เป็นพรรณไม้น้ำในวงศ์ Apiaceae เป็นพืชล้มลุกใบเลี้ยงคู่ขนาดเล็ก มีกิ่งยืดยาวเลื้อยไปตามพื้นหรือผิวน้ำ ใบค่อนข้างกลม ขอบใบหยักโค้ง โดยธรรมชาติ แว่นแก้วพันธุ์นี้จะชอบสภาพน้ำค่อนข้างกระด้าง ซึ่งจะเจริญเติบโตและแตกไหลแตกต้นอ่อนอย่างรวดเร็ว ถ้าแสงน้อยจะแทงยอด และแผ่กระจายไปตามผิวน้ำ สามารถอยู่ได้ทั้งใต้น้ำและลอยบนผิวน้ำ

        
           หญ้าหัวไม้ขีด ( E. parvula ) อยู่ในวงค์ Cyperaceae เป็นพรรณไม้น้ำสกุลเดียวกับหญ้าผม ( Hairgrass ) ซึ่งลักษณะทั่วไปคล้ายคลึงกัน
ลำต้นบนดินลักษณะคล้ายเส้นด้าย ลำต้นและใบคล้ายกก ขึ้นเป็นกอมีรากหยั่งดิน ยาวประมาณ 5-8 เซนติเมตร







 หญ้าผม ( E. acicularis ) เป็นพรรณไม้น้ำอยู่ในวงค์เดียวกับพืช จำพวกกก คือ วงศ์ Cyperaceae
 เป็นพืชที่มีดอก ใบเลี้ยงเดี่ยว ในธรรมชาติชอบขึ้นชายน้ำแต่สามารถเจริญเติบโตใต้น้ำ จึงนิยมปลูกประดับตู้ปลา  เป็นพืชมีลำต้นใต้ดินเป็นแท่งต้นบนดินชูตั้งขึ้นเป็นกลุ่ม ไม่มีข้อคล้ายต้นหญ้า



 อเมซอนแดง ( E. osiris ) จัดอยู่ในวงศ์  Alismataceae เช่นเดียวกับพรรณไม้น้ำสกุล  Echinodorus  อื่นๆ ลักษณะทั่วไปคล้ายกัน
 อเมซอนแดงจะมีใบอ่อนสีแดง ซึ่งเป็นตัววัดระดับธาตุเหล็กในตู้ปลา นั่นคือ ถ้าขาดธาตุเหล็ก ใบอ่อนจะซีดและบางใส แต่ถ้ามีค่าความเป็นด่าง ( pH ) สูงกว่า 7.5 จะมีผลเชิงลบต่อการเจริญเติบโต
 อเมซอนแดงเป็นพรรณไม้ประเภทครึ่งบกครึ่งน้ำ อยู่ได้ทั้งใต้น้ำและเหนือน้ำ ใบใต้น้ำจะเรียวยาวกว่าใบที่อยู่เหนือน้ำ








 ใบพาย ( C. wendtii ) เป็นพรรณไม้อยู่ในวงศ์ Araceae ลักษณะทั่วไปคล้ายไม้น้ำสกุล Cryptocoryne อื่น แต่ชนิดนี้ใบและก้านเป็นสีเขียวอมแดง ลักษณะใบยาว ปลายและโคนใบแหลมขอบใบเป็นลอนหยัก
 ใบพาย เป็นพรรณไม้น้ำอีกชนิดหนึ่งที่สถาบันวิจัยสัตว์น้ำสวยงาม และสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำของไทย ได้ทดลองเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจนประสบความสำเร็จ

ลำต้นหรือ ใบ จะมีน้ำยางใสๆหรือขาว มีรสขมฝาดใบเป็นลักษณะเดี่ยวเป็นรูปหอก เส้นใบแตกเป็นร่างแห ก้านใบยาวตรงโคนแผ่กว้างหุ้มประกบกัน 
ความสูงบนบก สูงประมาณ 50 เซนติเมตร แต่เมื่ออยู่ในตู้จะสูงประมาณ 30 เซนติเมตร แผ่นใบยาวประมาณ 10-12 เซนติเมตร กว้าง 5-8 เซนติเมตร ขยายพันธุ์  ด้วยการแยกลำต้น




ลำต้นเรียวยาวมีข้อปล้องเห็นได้ชัดเจน อาจขึ้นตั้งตรงหรือเลื้อยทอดไปตามพื้นดิน
 มีรากเจริญจากข้อของลำต้น ลำต้นที่เจริญใต้น้ำมักจะบวมพองน้ำ และมีขนาดใหญ่กว่าลำต้นที่เจริญเหนือน้ำ
 ใบเป็นใบเดี่ยวแตกจากลำต้นแบบตรงข้าม ไม่มีก้านใบ สีของใบมีตั้งแต่สีเขียวจนถึงสีแดง แผ่นใบมีรูปร่างเป็นรูปหอกที่มีโคนใบแคบกว่าปลายใบ
ปกติขอบใบเรียบแต่ในใบแก่ขอบใบมักจะม้วนไปทางด้านหลังของใบ ขนาดของใบยาวประมาณ 3-8 เซนติเมตร และกว้างประมาณ 1.0-1.5 เซนติเมตร



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น